ข่าวราชบุรี : ยายวัย 72 อารมณ์ดีร้องคลอเพลงสุรพลพายเรือขายขนมสองฝั่งคลอง อ.ดำเนินสะดวก จ. ราชบุรี



ไปดูคุณยายวัย 72 ปี สุดอารมณ์ดี ล่องเรือขายของเปิดเพลงสุรพล สมบัติเจริญ ร้องคลอฟังดูเพราะเชียว ยายบอกขายมากว่า 60 ปีแล้วในคลองดำเนินยุคเดียวกันหนีหายไปหมดเหลือฉันอยู่คนเดียว 

           พาไปฟังน้ำเสียงเพราะ ๆ ของคุณยาย ที่พายเรือขายขนม ไปด้วย ร้องเพลงคลอไปด้วย กับการเปิดวิทยุทรานซิสเตอร์ จากเพลงยุคเก่า ๆ ของนักร้องชื่อ  อย่าง สุรพล สมบัติเจริญ  ครูเพลงและนักร้องดังในอดีต “ เพลงลืมผมหรือยังครับแฟน ”  ที่โด่งดัง  จนมาถึงปัจจุบันนี้ก็ยังมีคนชื่นชอบนำเพลงเก่า ๆ ของครูสุรพลมาร้อง และเปิดฟังเพื่อให้นึกหวนถึงบรรยากาศเก่า ๆ ของคลองดำเนินสะดวก  

          คุณยายวิไล ฤดีสายเจริญสุข อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 421หมู่ 5 ต.ประสาทสิทธิ์ อ.ดำเนินสะดวก จ. ราชบุรี แม่ค้าขายขนม ที่ชอบเพลงแบบนี้นำมาเปิดฟังช่วงระหว่างพายเรือขายขนม พายเรือมาถึงบริเวณหน้าวัดปราสาทสิทธิ์ ต.ประสาทสิทธิ์ อ.ดำเนินสะดวก พร้อมกับเสียงของกระดิ่งทำจากทองเหลืองเสียงดังกังวานไว้สั่นเป็นการส่งสัญญาณเรียกลูกค้าริมสองฝั่งคลอง เมื่อทุกคนริมฝั่งคลองได้ยินเสียงกระดิ่งก็รู้กันเลยว่าคุณยายวิไล พายเรือมาขายขนมแล้ว   

             สอบถามคุณยายทราบว่า เป็นแม่ค้าขายขนมมานานหลายสิบปีแล้ว  ด้วยฝีมือทำขนมที่มีรสชาติหวานมัน ใช้น้ำตาลมะพร้าวจากสวนมีทั้งข้าวต้มมัด ขนมใส่ไส้ ข้าวเหนียวหน้าปลา หน้าสังขยา ข้าวเหนียวถั่วดำ และอีกหลายอย่างที่ทำเอง ส่วนหนึ่งก็รับมากขายด้วย  จะพายเรือออกจากบ้านขายไปตามลำคลองจนถึงบ่าย ๆ จึงกลับบ้าน 




            ด้วยอารมณ์สุนทรีย์ชื่นชอบเสียงเพลงเป็นชีวิตจิตใจ คุณยายเปิดฟังจากวิทยุทรายซิสเตอร์ผ่านรายการของดีเจที่มักจะเปิดเพลงเก่าของสุรพล สมบัติเจริญ ทุกวันจนจำได้แทบทุกเพลง เวลาพายเรือขายก็จะร้องคลอเบา ๆ ไปด้วย ทำให้รู้สึกมีความสุข แม้จะเจอปัญหายุคโควิด- 19 แทบไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในบริเวณคลองแถบนี้เลย   แต่คุณยายก็ยังคงพายเรือขายขนมให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งคลองอยู่แบบนี้มานาน เพราะเป็นวิถีชีวิตของชุมชน ที่นับวันเริ่มจะเลือนหายไปแล้ว หลงเหลือไว้แต่เพียงรูปภาพในอดีตที่ยังตราตรึงในใจของคุณยายเท่านั้น  

               คุณยายวิไล ฤดีสายเจริญสุข เปิดเผยว่า พายเรือขายของมานานกว่า 60 ปีแล้ว ตั้งแต่อายุ 11-12 ปี จนปัจจุบันอายุ 72 ปี  ตอนนั้นขายของอย่างอื่น มาวันนี้ขายขนมหลายอย่าง  ยังมีภาพเก่าที่เคยพายเรือขายบริเวณคลองหลักห้าเมื่อปี 2502 สมัยนั้นมีเรือเยอะเต็มคลอง ที่นำพืชผลทางการเกษตรมาขายกันทางเรือจนในคลองแน่นไปด้วยเรือ แต่ปัจจุบันนี้แทบไม่มีเลย สมัยก่อนจะดีกว่า มีคนล่องเรือเยอะ ยิ่งมาช่วงนี้เกิดโรคระบาดโควิด - 19 แบบนี้ยิ่งเงียบมาก ส่วนแม่ค้า และกลุ่มเพื่อนในยุคเดียวกันที่เคยพายเรือขายของแบบนี้เขาเลิกกันไปหมดแล้ว  ยังมียายเหลืออยู่เพียงลำเดียวจากภาพเรือเต็มคลอง เพราะหยุดและไปทางรถกันหมดแล้ว มีการค้าขายกันทางรถ ส่วนยายขับรถไม่เป็นก็ต้องพายเรือขายต่อไป  ทั้งที่ลูก ๆ อยากให้หยุดแต่รู้สึกเสียดาย เพราะพายเรือขายได้เงินหักทุนเหลือได้กำไรประมาณวันละ 500 บาท  ไปขายจะมีกระดิ่งสั่นเรียกให้คนได้ยินและจะออกมาซื้อของที่ขายทุกวัน จะเริ่มพายเรือขายตั้งแต่ 6 โมงเช้า จนถึงบ่าย 2 โมง  ในใจมองว่าถ้าหยุดขายแล้วไปนั่งอยู่กับบ้านจะไม่มีแรง  ทุกวันนี้เป็นโรคความดันกับไขมัน แต่ก็กินยาประจำไว้  คิดว่าจะพายเรือขายขนมไปอีก 1 - 2 ปี ก็คงหยุด รู้สึกสบายที่พายเรือขายของได้เงินมีกินมีใช้สบายใจดีไม่ต้องไปรบกวนลูก ๆ 

            คุณยายยายวิไล บอกอีกว่า จากอดีตจนถึงวันนี้รู้สึกเสียดายที่ภาพเก่า ๆ หายไป และย้อนกลับมาไม่ได้แล้ว ในอดีตเห็นเรือแล่นเป็นร้อยลำในคลองจนแน่นเต็มคลอง จึงอยากให้ภาพเก่า ๆ หวนกลับคืนมาอีกครั้ง  แต่มองคงเป็นไปได้ยากแล้ว 

            คุณยายยายวิไล  ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า  สมัยก่อนในอดีตสายน้ำแห่งนี้ใสสะอาดไม่มีขยะ วัชพืช มาสมัยนี้ขยะลอยมาเต็มคลอง ทั้งที่มีการรณรงค์ไม่ให้ทิ้งขยะลงลำคลอง และร่วมกันกำจัด แต่ก็ไม่ไหว เพราะคนทิ้งมากกว่า คนเก็บ  ขยะก็จะไหลไปสิ้นสุดที่ประตูน้ำ เมื่อประตูน้ำเปิดก็ปล่อยไหลลงทะเลเขาเรียกว่าประตูน้ำบางยาง จึงอยากให้ทุกคนมีจิตสำนึกช่วยกันมีดูแลวัชพืช และขยะในลำคลอง เพื่อจะให้กลับใสสะอาดดั่งในอดีต   

                 ////////////////////////////////////////////

พันธุ์ -จรรยา   แก้วนุ้ย จ. ราชบุรี




รายงาน ข่าวราชบุรี โดย สถานีโทรทัศน์สีท้องถิ่นราชบุรี TBS - THODSAWAT BROADCASTING SYSTEM

ความคิดเห็น