ข่าวราชบุรี : ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จ.ราชบุรี จัดการเรียนการสอนทำว่าวปักเป้า เพื่อการอนุรักษ์การละเล่นกีฬาพื้นบ้าน ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง และสามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้
( 2 ก.พ. 66 ) ดร.รัชนิดา รอดอิ้ว อาจารย์ประจำ คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชานิเทศศาสตร์และนวัตกรรมสื่อ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จ.ราชบุรี ได้จัดการเรียนการสอนทำว่าวปักเป้า ซึ่งเป็นว่าไทยมาแต่สมัยโบราณ สอนให้แก่นักศึกษาสาขาสังคมศึกษา คณะมนุษยศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 โดยมี ผศ.ณัฐวดี สว่างงาม อาจารย์สาขาวิชาการตลาด และ ผศ.ชดาทิพ ศุภสุวรรณได้นำนักศึกษาร่วมกิจกรรมทำว่าวปักเป้าด้วย โดยมีนายพันธุ์ แก้วนุ้ย วิทยากรพิเศษที่มีความเชี่ยวชาญการทำว่าวมานานกว่า 40 ปี มาบรรยายให้ความรู้สอนการทำว่าวปักเป้าซึ่งตามประวัติว่าวไทยเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เรื่อยมาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ มีพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ทรงโปรดปรานว่าว โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพอพระราชหฤทัยและทรงมีพระบรมราชาอนุญาตให้มีการแข่งขันว่าวจุฬาปะทะปักเป้าขึ้น พร้อมกับพระราชทานรางวัลแก่ผู้เข้าร่วมแข่งขันที่ท้องสนามหลวงในสมัยนั้น ทำให้กีฬาว่าวไทยเริ่มมีการแข่งขันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ก็ยังคงมีการจัดการแข่งขันตามภูมิภาคต่าง ๆ ขึ้นในช่วงหน้าลมว่าวของเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนเป็นประจำทุกปี
สำหรับขั้นตอนการทำว่าว เริ่มจากการนำไม้ไผ่สีสุกที่มีสภาพเนื้อแห้งมาผ่าเป็นซีกเล็ก ๆ ใช้มีดเหลาให้กลมเกลี้ยงตามสัดส่วน ว่าวปักเป้า 1 ตัว จะใช้ไม้ 2 อัน คือ ไม้ปีก และไม้อก เมื่อเหลาและตัดได้ตามสัดส่วนแล้วจึงนำเชือกมาผูกเงื่อน โดยมีเชือกผูกที่กลางอกโครง และปีกว่าวจะต้องเหนี่ยวรั้งเชือกให้เท่ากันจึงจะได้ตัวว่าวที่มีความพอดีไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง จากนั้นติดกระดาษมีให้เลือกหลายรูปแบบทั้งกระดาษแก้วสี กระดาษสา กระดาษที่มีลาย และกระดาษสีขาวสามารถนำสีระบายตามจินตนาการได้ เมื่อได้โครงว่าวแล้ว จากนั้นจะนำมาทากาวติดกระดาษ ใช้กรรไกร ตัดขอบให้ห่างจากโครงว่าวเล็กน้อย เพื่อพับปิดทับกระดาษให้เรียบร้อย พร้อมกับทำพู่ด้านข้าง นำกระดาษตัดทำเป็นหางว่าวมีความยาวประมาณ 9 ทบจากอกว่าว ส่วนขั้นตอนสุดท้ายนำเชือกมาผูกเจาะซุงว่าว กำหนดระยะให้ได้ตามสัดส่วน เพื่อให้ว่าวมีการขึ้นที่ดี ไม่เอียง หรือส่ายหัว หรือ ปักลงพื้นดิน โดยทั้งการเหลาโครงไม้ การผูกเชือก การติดกระดาษ การผูกซุงว่าว และติดหางว่าว ล้วนแต่เป็นเทคนิคเฉพาะที่หากไม่มีส่วนในองค์ประกอบเหล่านี้ ก็จะไม่สามารถนำพาว่าวขึ้นทะยานเล่นลมบนท้องฟ้าได้ ซึ่งถ้าว่าวขาดองค์ประกอบก็จะทำให้ว่าวไม่ขึ้น หรือ หัวทิ่มปักลงพื้น
นางสาวโชติกา คะพุก อายุ 21 ปี นักศึกษาสาขาสังคมศึกษาปี 3 กล่าวว่า การเรียนทำว่าวปักเป้าวันนี้ ได้วิธีการทำว่าว ได้ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบว่าวออกมาเป็นแบบที่สวยงามตามจินตนาการของตนเอง
ด้านนายทศวรรษ ต้านสิงห์ อายุ 23 ปี นักศึกษาสาขาสังคมศึกษาปี 3 กล่าวว่า คิดว่าอนาคตจะนำไปต่อยอดแน่นอนเพราะได้เป็นเหมือนวัฒนธรรมของคนไทยในสมัยโบราณไปแล้ว สำหรับการเรียนทำว่าววันนี้ได้ทั้งความสนุก ได้การออกแบบ และยังได้ออกกำลังกายอีกด้วย
ดร.รัชนิดา รอดอิ้ว อาจารย์ประจำคณะวิทยาการจัดการสาขาวิชานิเทศศาสตร์และนวัตกรรมสื่อ กล่าวว่า เป็นรายวิชาสุนทรียะได้เรียนเพราะว่าสุนทรียภาพในชีวิตนั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งก็จะต้องเรียนรู้ด้านศิลปะ ด้านดนตรี การละเล่นไทย ว่าวก็ถือเป็นการละเล่นหนึ่งของคนไทยซึ่งได้รับการสืบทอดมายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย เด็ก ๆ ได้มาเล่นมาเรียนรู้ก็จะได้ซึมซับความเป็นไทย ในขณะเดียวกันยังได้องค์ความรู้นำไปประกอบอาชีพในอนาคตได้อีกด้วย
วันนี้ที่เด็กจะได้รับชัดเจน คือ ช่วงแรก ๆ เขารู้สึกว่าไม่ชอบ ไม่อยากทำ แต่พอได้เรียนรู้ ได้สัมผัสและลงมือปฏิบัติทำให้เกิดความชอบใจและสนุกสนานตื่นเต้น ตอนแรกจะเล่นโทรศัพท์มือถือไม่ค่อยฟังอาจารย์สอน แต่ก็เปลี่ยนไปเพราะเห็นเพื่อนทำว่าวก็รู้สึกชอบเป็นความคิดสร้างสรรค์ มีจินตนาการได้ออกแบบลวดลายด้วยตัวเขาเอง มีการประดิษฐ์ให้สวยงามทั้งที่มีอุปกรณ์เพียงเล็กน้อย การที่ส่งเสริมให้เล่นว่าวในวันนี้ ยังก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ก่อเกิดสุขภาพที่แข็งแรงจากการวิ่งว่าว ได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ในร่างกาย มีสมาธิเพราะว่าวทำยากตรงที่การขึ้นโครงจะมีลักษณะโค้งของไม้ไผ่ที่จะต้องดึงเชือกวัดขนาดให้เข้ารูป เด็กจะต้องตั้งใจและยังเรียนรู้เรื่องของการวัดขนาดของว่าว การคิดนอกกรอบจะทำอย่างไรดีถึงจะได้ว่าวในรูปแบบที่สวยงาม อันนี้เป็นเรื่องที่ได้จากการทำว่าว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เด็ก ๆ ได้ความรู้มากมาย
อย่างไรก็ตามหลังจากได้มีการสอนการทำว่าวปักเป้าเสร็จแล้ว ทางคณะอาจารย์ผู้สอนได้ให้นักศึกษานำว่าวของตัวเองไปทดลองวิ่งว่าวที่สนามหน้าอาคารวิทยาการจัดการ ซึ่งเป็นสนามที่ไม่ค่อยกว้างมากนัก และมีลมพัดอ่อน ๆ จึงทำให้หลายคนต้องอดทนรอกระแสลมที่จะพัดเข้ามาเป็นระยะแล้ว จึงให้เพื่อนนำว่าวปักเป้าส่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า บางตัวก็ขึ้นได้ง่าย แต่บางตัวลมอ่อนมากทำให้ว่าวส่ายไปมา ด้วยพระกระแสแรงลมไม่เพียงพอต่อการเล่นว่าว แต่ก็ทำให้ทุกคนได้นำว่าววิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน พร้อมกับเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกกับกิจกรรมการเรียนที่ประทับใจ
////////////////////////////////////////////////////
พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น