ข่าวราชบุรี : สภาเกษตรกร จ.ราชบุรี ลงนามความร่วมมือส่งเสริมการผลิตข้าวเพื่ออุตสาหกรรม และ สนับสนุนกิจกรรมด้านเกษตรปลอดภัย ลดปัญหาการนำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาแพง
( 8 มี.ค. 66 ) นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เป็นประธานพิธีลงนามความร่วมมือส่งเสริมการผลิตข้าวเพื่ออุตสาหกรรม และลงนามบันทึกความร่วมมือสนับสนุนกิจกรรมด้านเกษตรปลอดภัย ที่โรงแรมโฮเทล วิศมา อ.เมือง จ.ราชบุรี มีนายเมธัสสิทธ์ ลัคนทินวงค์ หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรจังหวัดราชบุรี นายสุทิน ชฎาดำ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดราชบุรี นายไชย์วิทย์ บัวงาม สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ผู้แทนจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้แทนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ปศุสัตว์จังหวัด เจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายสุทิน ชฎาดำ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดราชบุรี กล่าวในนามผู้ดำเนินงานการส่งเสริมการผลิตข้าวเพื่ออุตสาหกรรม จ.ราชบุรี และโครงการเกษตรกรราชบุรีต่อต้านทุจริตข้าวสร้างผลผลิตปลอดภัย ตาม พ.ร.บ.สภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ. 2553 กำหนดให้สภาเกษตรกรแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่พัฒนาและส่งเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เกษตรกร ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ สร้างความเข้มแข็ง สามารถดำเนินธุรกิจครบวงจร ลดการพึ่งพาจากภาครัฐ พัฒนาขีดความสามารถในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน และให้สภาเกษตรกรมีอำนาจหน้าที่ รักษานโยบายและดำเนินงาน ระหว่างองค์กรเกษตรกรและเกษตรกร สถาบันวิจัย สถาบันการศึกษาและหน่วยงานภาครัฐ
ปี 2564 ไทยส่งข้าวสารออกปริมาณ 6.11 ล้านตัน แต่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวกำลังประสบปัญหาความยากจน ต้นทุนการผลิตสูง ราคาข้าวตกต่ำ การปรับเปลี่ยนรูปแบบข้าวเพื่อบริโภคมาเป็นข้าวเพื่ออุตสาหกรรม จึงเป็นการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าข้าวให้เกิดการยกระดับการผลิตข้าวได้มีคุณภาพและมาตรฐานให้รองรับอุตสาหกรรมต่อเนื่องในประเทศ ช่วยลดต้นทุนการผลิต การขนส่ง ลดการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์จากต่างประเทศ ที่มีการปรับตัวสูงขึ้น
ราชบุรีถือเป็นพื้นที่มีการเลี้ยงฟาร์มสุกร ฟาร์มวัวขุน ฟาร์มไก่งวง ที่มีความต้องการวัตถุดิบเพื่อใช้ในอาหารสัตว์จำนวนมาก จึงได้จัดโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวเพื่ออุตสาหกรรม จ.ราชบุรี เป็นต้นแบบให้เกษตรกรในการพัฒนาผลิตข้าวเพื่ออุตสาหกรรม สร้างระบบเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างผู้ผลิตและอุตสาหกรรมปศุสัตว์อย่างครบวงจร เกษตรกรได้ผลิตข้าวเพื่ออุตสาหกรรมและผลิตสินค้าอาหารต่าง ๆ เช่น พืชผัก ผลไม้ ประมง ปศุสัตว์ นโยบายการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย ผลผลิตมีคุณภาพได้มาตรฐาน สินค้าเกษตรกรปลอดภัยเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค สร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวที่ราชบุรีมากยิ่งขึ้น
นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า สภาเกษตรกร จ.ราชบุรี ได้รับมอบหมายจากสภาเกษตรกรแห่งชาติ ให้มีการจัดพิธีลงนามความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ เรื่องการพัฒนาข้าวเพื่ออุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ซึ่งจะพยายามจะเปลี่ยนแปลงข้าวสำหรับบริโภคเพื่อเป็นข้าวสำหรับอาหารสัตว์ มนุษย์ก็บริโภคได้ มีเชื้อแป้ง โปรตีนสูง ตอนนี้ประเทศไทยนำเข้าข้าวสาลีสำหรับอาหารสัตว์ปีหนึ่งหลายแสนตันอยู่แล้ว จึงพยายามปลูกข้าวเพื่อให้ทดแทนการนำเข้า โดยความร่วมมือระหว่างสภาเกษตรกรจังหวัดราชบุรี กับ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมีการวิจัยพัฒนาพันธุ์ข้าวสายพันธุ์ ศฟ. 10-7 หรือ ( OSSY -23 ) เป็นสายพันธุ์ตามรหัสของนักวิจัย เพื่อแก้ปัญหาการปลูกข้าวที่ได้ผลผลิตไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน เพาะพันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำ ปัญหาโรคและแมลงศัตรูข้าวที่สำคัญระบาด เพราะพันธุ์ข้าวที่ไม่ต้านทานต่อโรค และแมลงศัตรูข้าว ซึ่ง จ.ราชบุรีมีการทดสอบปลูกข้าวพันธุ์นี้มาแล้ว 2 ผลัด ปรากฏว่าได้ผลผลิตดีมาก ต่อไร่สูง เชื้อแป้งดี ทดสอบเอาไปเลี้ยงสัตว์แล้วได้ผลดี เจ้าของฟาร์มหมูพอใจสามารถซื้อข้าวได้ในราคา กก.ละ 11 บาท หรือ ตันละ 11,000 บาท ซึ่งราคาดีกว่าท้องตลาดทั่วไป เป็นที่พอใจของเกษตรกรชาวนาในพื้นที่ และคาดหวังว่าจากการที่ทดสอบแล้ว ความร่วมมือวันนี้จะทำให้เกิดการผนึกกำลังเพื่อพัฒนาให้เป็นรูปธรรมชัดเจน มีการขยายผลมากขึ้น มีสมาคมปศุสัตว์หลายแขนงสนใจในเรื่องนี้มาก เช่น จากโคเนื้อนำไปเลี้ยงได้ ฟาร์มไก่งวง และสัตว์อื่นๆ จากนี้สภาเกษตรกรพยายามผลักดันให้เป็นนโยบายระดับชาติ โดยการส่งข่าวถึงรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้วว่าประเทศนี้ควรมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องการเพาะปลูกข้าว เพื่อส่งออกกับบริโภคโดยมนุษย์ แข่งขันไม่ได้กับประเทศคู่แข่งเพราะต้นทุนถูกกว่าเรา เราน่าจะปลูกข้าวแล้วขายเป็นปศุสัตว์ไป ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าได้อีก 1 รอบการผลิต คือ ปลูกข้าวไปแล้วเอามาเลี้ยงสัตว์แล้วขายสัตว์ไป ประเทศไทยก็จะสามารถพึ่งพาตนเองได้ด้านอาหารสัตว์มากยิ่งขึ้น ลดการนำเข้าได้เป็นกอบเป็นกำ ที่สำคัญจะช่วยลดเพาะปลูกข้าวเพื่อส่งออกตลาดโลกเพื่อจะแข่งขันลดปริมาณลงได้ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเองไม่ต้องมีภาระชดเชยพี่น้องชาวนา เพื่อลดภาระงบประมาณแผ่นดินในการชดเชยชาวนาในการปลูกข้าว เพราะข้าวที่ปลูกเพื่ออุตสาหกรรมอย่างน้อยที่สุดมีราคาประกันโดยเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ เพราะเขาซื้ออาหารสัตว์ในราคาแพงอยู่แล้ว
สำหรับข้าวที่ปลูกนำมาเลี้ยงสุกรได้ มีวิตามินดีกว่า น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกับเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ ลดการนำเข้าข้าวสาลี เป็นอาหารปศุสัตว์ปีหนึ่งหลายแสนตัน จึงน่าจะปลูกข้าวชนิดนี้ทดแทนการนำเข้าข้าวสาลีได้
////////////////////////////////////////////
พันธุ์ - จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น