ข่าวราชบุรี : สวนพอเพียงยั่งยืน จากอดีตผู้รับเหมาก่อสร้าง สู่ประธานกลุ่มเกษตรกรเครือข่ายขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเขาชะงุ้ม ทำอาชีพเกษตรกรเต็มตัวกับการปลูกพืชผักอินทรีย์ปลอดภัยสู่ผู้บริโภค


  จากอดีตเคยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง สู่ประธานกลุ่มเกษตรกรเครือข่ายขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเขาชะงุ้ม ทำอาชีพเกษตรกรเต็มตัวกับการปลูกพืชผักอินทรีย์ปลอดภัยสู่ผู้บริโภค ของนางสำเนียง เกตุมณี อายุ 56 ปี เกษตรกรหมู่ 3 ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี  หลังจากถึงจุดอิ่มตัวกับการทำงานเป็นผู้รับเหมา ได้ตัดสินใจกลับถิ่นฐานบ้านเกิด เพื่อมารับช่วงต่อการทำเกษตรจากครอบครัว ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเปลี่ยนจากการทำเคมีมาเป็นเกษตรอินทรีย์ เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพของคนในครอบครัว ปัจจุบันได้ผลิตผักอินทรีส่งโรงพยาบาลสำหรับเป็นอาหารผู้ป่วย และเป็นผู้ส่งต่อพืชผักปลอดภัยสู่ผู้บริโภคด้วยความรักและความใส่ใจ

             นางสำเนียง เกตุมณี ประธานกลุ่มเกษตรกรเครือข่าย ขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเขาชะงุ้ม กล่าวว่า   สามีมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง  เพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว ต่อมาพ่อแม่มีอายุมากขึ้น อีกทั้งร่างกายของตัวเองเริ่มทรุดโทรมลงไม่ค่อยแข็งแรง จึงตัดสินใจมาช่วยครอบครัวทำการเกษตร สมัยก่อนที่บ้านจะปลูกข้าวโพด มีการใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง ทำให้รู้สึกเวียนศรีษะ จึงตัดสินใจเปลี่ยนแนวคิดจากการใช้สารเคมี  มาใช้สารธรรมชาติ เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย  ต่อมาได้มีโอกาสเรียนรู้จากโครงการพระราชดำริ มีเพื่อน ๆ ชักชวนพาไปอบรมให้ความรู้เรื่องต่าง ๆ  ลงมือปลูกผักที่บ้านแบบไม่ใช้สารเคมีเลย ช่วงแรกยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพราะอยู่ในขั้นทดลอง  จนกระทั่งทุกวันนี้ทำได้เกือบครบทุกอย่างของการทำเกษตรอินทรีย์แล้ว 

                ที่บ้านปลูกผักสลัด ผักใบ มะเขือ  ข้าวโพดหวาน  ทำปุ๋ยหมัก และน้ำหมักฮอร์โมนใช้เอง  ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากการทดลองทำการปลูกผักหลายชนิด อนาคตมีความคิดว่าแนวโน้มการทำเกษตรอินทรีย์จะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากจะมีคนจะหันมาใส่ใจสุขภาพของตนเองและหันมาปลูกผักอินทรีย์รับประทาน  ทุกวันนี้นำผลผลิตไปขายในโครงการพระราชดำริ  ส่งโรงพยาบาลให้คนไข้ได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย และยังนำไปขายในตลาดนัดใกล้บ้าน   ยังได้รับคำชมจากลูกค้า เรื่องการปลูกผักปลอดภัย จึงมีความภาคภูมิใจและเป็นกำลังใจให้เราสู้ในการทำเกษตรอินทรีย์ 

               สำหรับการทำปุ๋ยหมักมีส่วนผสมจากอินทรียวัตถุจำพวกเศษใบไม้แห้ง หญ้าเนเปีย ซึ่งจะช่วยให้ธาตุไนโตรเจนสูง  มีกระถิน มูลแพะ รำละเอียด เป็นอาหารของจุลินทรีย์  อัตราส่วนถ้าอินทรียวัตถุประมาณ 1 ตัน  จะใช้รำละเอียด  20 กิโลกรัม กากน้ำตาล  10 กิโลกรัม ตามด้วยจุลินทรีย์น้ำหมัก และสารเร่งซุปเปอร์  พด. 1   จำนวน  1 ซอง  ผลิตปุ๋ยหมัก 1 ตัน  จะเป็นตัวช่วยเร่งการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุให้เร็วยิ่งขึ้น จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน  

               การปรุงดินปลูกผักสลัด จะใช้ขุยมะพร้าวที่แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3 น้ำรวมกับขี้เถ้าแกลบที่แช่น้ำไว้แล้ว   ใช้มูลไส้เดือนที่เลี้ยงไว้มาผสมครึ่งส่วน ปุ๋ยหมักครึ่งส่วน  คลุกเคล้าให้เข้ากัน และต้องใส่จุลินทรีย์น้ำหมักปลา คลุกเคล้าให้เข้ากันจะช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของต้นกล้าผักสลัดได้ดีขึ้น 

              การปลูกนำดินใส่เบ้าหลุมแล้ว ให้นำเมล็ดผักหยอดลงไปในภาชนะ ใช้สเปรย์รดน้ำเบา ๆ ทิ้งไว้ในร่มประมาณ 3 วัน ผักจะค่อย ๆ งอกขึ้น   ดูแลต่ออีกประมาณ 25 วัน เป็นต้นกล้าสามารถจำหน่วยได้ถาดละ 140 บาท 

                ส่วนการเลี้ยงไส้เดือนจะมีการนำมูลวัวแช่น้ำไว้ 3 วัน  เพื่อล้างความเค็มออก  จากนั้นใส่ตัวไส้เดือนลงไปในภาชนะ โดยจะให้เศษผักที่เหลือจากการเก็บมาให้ไส้เดือนกินเป็นอาหาร  และจะดูแลรดน้ำเพื่อให้ความชุ่มชื้นอยู่เสมอใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน จึงนำมาร่อนเอามูลไส้เดือนออกไปใช้ประโยชน์ต่อไป 

             สวนพอเพียงยั่งยืน สามารถติดต่อได้ที่ นางสำเนียง เกตุมณี  เบอร์ 061-5984108

                                   ////////////////////////////////////////////////

พันธุ์  - จรรยา  แก้วนุ้ย  จ.ราชบุรี





























ความคิดเห็น