ข่าวราชบุรี : รองผู้ว่าฯราชบุรี นำ ขนส่งฯ-ตำรวจจราจร ราชบุรี ตั้งจุดตรวจจับรถควันดำ ลุยลดฝุ่น PM 2.5 บนท้องถนน

วันที่ 4 ธ.ค. 2567 จากปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่กำลังแพร่กระจายในหลายจังหวัดของประเทศไทยจนเกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ในส่วนของจังหวัดราชบุรี นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้นำส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดกำลังบูรณาการร่วมทั้งสำนักงานขนส่งจังหวัดราชบุรี ตำรวจภูธรราชบุรี ฝ่ายปกครอง ตั้งจุดตรวจเข้มในเส้นทางหลักเพื่อตรวจสอบรถบรรทุกที่ปล่อยควันดำ พร้อมใช้มาตรการจับปรับอย่างสูงสุดเพื่อให้คนขับรถ รีบนำรถไปแก้ไขให้ถูกต้อง เป้าหมายคือลดปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เป็นปัญหาในขณะนี้

นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี จากข้อมูลของสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 8 ที่วัดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดราชบุรีในช่วงหลายวันที่ผ่านมาพบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ปัจจัยที่ทำให้ฝุ่นในจังหวัดราชบุรีเกินมาตรฐานมีหลายปัจจัย รวมทั้งการจราจรก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่นฯด้วย จึงมีการบูรณาการส่วนราชการตรวจวัดรถควันดำอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น อีกทั้งจะเข้าตรวจรถยนต์ของส่วนราชการในจังหวัดราชบุรีเรื่องควันดำด้วย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ยังได้กล่าวถึงการป้องกันและลดผลกระทบจากฝุ่นละออง PM 2.5 ว่าทุกวันสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 8 จะตรวจวัดค่าฝุ่นฯ ซึ่งประชาชนสามารถดูได้ในแอปพลิเคชัน Air4Thai เพื่อตรวจสอบปริมาณฝุ่นละอองก่อนออกจากบ้าน พร้อมเลือกสวมหน้ากากอนามัยที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่น PM 2.5 ลดกิจกรรมกลางแจ้งหากพบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.

ด้านนายบุญมาก ไชยอิน ขนส่งจังหวัดราชบุรี กล่าวถึงการเข้าไปตรวจควันและมลพิษของรถยนต์ส่วนราชการ โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีรถยนต์จำนวนมากก่อน ส่วนภาคผู้ประกอบการที่ออยากร่วมรณรงค์การลดมลพิษก็สามารถแจ้งมาที่ขนส่งจังหวัดราชบุรีเพื่อไปนำเจ้าหน้าที่ไปตรวจวัดให้ พร้อมแนะนำให้เจ้าของรถตรวจเช็กและซ่อมเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่เสมอ โดยเกณฑ์ตรวจค่าควันดำที่เจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจบนถนนค่าสูงสุดต้องไม่เกินร้อยละ 30 หากค่าเกินจะถูกเปรียบเทียบปรับสูงสุด 5,000 บาท และสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ “ห้ามใช้” จนกว่าเจ้าของรถจะนำรถไปแก้ไขสภาพเครื่องยนต์ไม่ให้มีค่าควันดำเกินกำหนด และนำมาตรวจสภาพอีกครั้งจนผ่านการตรวจวัดจึงจะนำไปใช้งานได้

//////////////////////////////////////////////////////////////








ความคิดเห็น